Page 1 - เศรษฐศาสตร์ว่าด้วย Social Distancing
P. 1
เศรษฐศาสตร์ว่าด้วย…
Social Distancing
โดย ดร.สมชาย หาญหิรัญ
ผมว่า
่
…. ในชวงวิกฤติไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่าง ไม่ให้ท านั้นท านี่เหมือนที่เคยท า แต่เรื่องนี้ในบ้านเรามีบ้าง
หนักในชวงหนักสุด ๆ ก็อยู่ในชวงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม แต่ก็ไม่รุนแรง อาจเป็นเพราะเราเข้าใจในการสื่อสารของรัฐ
่
่
2563 นี้ ที่มาตรการของรัฐออกมาแบบต้อง “เอาอยู่” จริง ๆ หรือการโต้ตอบรุนแรงจากสังคมเอง เพราะเขาก็กลัวติด
มาตรการรักษาระยะห่าง หรือ Physical หรือ Social ไวรัสจากเราเหมือนกัน เลยท าให้มาตรการ stay home ดู
distancing จะเรียกวาอะไรก็แล้วแต่ ความหมายคือให้ผู้คน เหมือนจะได้รับความร่วมมืออย่างดีเกินคาด จะเต็มใจ หรือ
่
อยู่ห่างกันในระยะห่าแดก (ค านี้ผมเอามาจากโซเซียลมีเดีย ต้องจ าใจก็แล้วแต่
ต่าง ๆ น่ะครับ ที่แปล social distancing ได้ชดเจนที่สุดใน
ั
ความเห็นผม) ท าให้มาตรการไม่ให้ออกจากบ้าน ปิด
ร้านอาหาร ห้างร้าน ตลาด หรือแม้แต่ปิดเมืองกันเลยทีเดียว
ห้ามคนต่างประเทศเข้ามาในประเทศ มาตรการเหล่านี้มุ่งไป
ี
ที่รักษาชวิตผู้คนให้ห่างจากความเสี่ยงของไวรัสนี้ ส่วน
ผลกระทบต่อธุรกิจที่สลบ ตาย หรือไม่ก็คางเหลืองกันเป็น
ระนาว เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐต้องว่าไป
ที่ผมจะคุยนี้ เป็นมาตรการเข้มที่ทุกประเทศน า
ขอบคุณภาพจาก: https://thejournalistclub.com/
้
ออกมาใชในการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส คือการ
ปิดเมือง ห้ามเดินทาง มีเคอร์ฟิว ห้ามชุมนุม สถานที่บันเทิง แนวคิดของเศรษฐศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าท าไม
ี
ต่าง ๆ ต้องปิด ซึ่งท าให้วิถีชวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจาก คนบางคน “โอเค” และคนบางคนก็ “ไม่โอ” กับมาตรการนี้
ที่เคยชน หลายแห่งในโลกมีคนหลายกลุ่มหลายคนออกมา ผมว่าน่าจะอธิบายได้ด้วยเรื่อง “Externality” หรือ
ิ
ประท้วงมาตรการดังกล่าว ส่วนมากให้เหตุผลว่าเป็นการ ผลกระทบภายนอกได้ใกล้เคียงกับการคัดค้านของคนบาง
ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ หรือผมเกิดในประเทศเสรี ท าอะไรก็ได้ กลุ่ม วิธีคิดก็งาย ๆ ของเราก็คือกลับไปที่มนุษย์ทุกคน
่
หรือไม่ก็ผมแข็งแรง ถ้าติดผมรับผิดชอบและผลลัพธ์เอง และ แสวงหาทางเลือกที่ตนเองมีความสุขมากที่สุด ดูผลตอบแทน
อีกสารพัดเหตุผลที่จะไม่ยอมเปลี่ยนวิถีชีวิตหรือถูกห้าม และต้นทุนทางจิตใจ แล้วดูว่าทางไหนดีที่สุด แต่การคิดแบบ
1